อีกหนึ่งแรงบันดาลใจดีๆ ในการทำธุรกิจครับ
DoNotTellMyBoss
“คิดเล็กๆแบบมีคุณภาพ” กลยุทธ์สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของแบรนด์ NaRaYa
จากที่เคยมีหนี้ 20 ล้านบาทเมื่อสิบปีก่อน มาวันนี้ NaRaYa ผลิตภัณฑ์ผ้าพิมพ์ลาย กลายเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้เข้า ประเทศกว่า 400 ล้านบาท ส่งออกสู่กว่า 40 ประเทศทั่วโลก และใช้แรงงานชาวบ้านในการผลิตกว่า 3,000 คน โดย Naraya ได้รับความนิยมอย่างสูงต่อเนื่องมาโดยตลอด ถึงกับมีชื่อเรียกเฉพาะในต่างประเทศทีเดียว เช่น "Ribbon Bag" หรือกระเป๋าติดโบว์ในญี่ปุ่น, "Hu Teib Toi" หรือกระเป๋าผีเสื้อในฮ่องกง และ "มั่น กู เปา" หรือกระเป๋าจากกรุงเทพฯ ในจีนและสิงคโปร์)
ด้วยประสบการณ์บนเส้นทางการทำธุรกิจร่วม 20 ปี คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส เจ้าของแบรนด์ NaRaYa เปิดเผย ว่า การทำธุรกิจของเธอนั้น เน้นความจริงใจ ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า การรักษาคำพูด การส่งงานตรงตามกำหนดเวลานัดหมาย เป็นต้น ที่สำคัญที่สุด สินค้าที่จำหน่ายจะต้องมีคุณภาพเพราะจะทำให้เกิดการซื้อซ้ำและการบอกต่อ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ กลยุทธ์โพรดักส์นำการตลาด
โดย NaRaYa ผูกใจลูกค้าด้วยการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ อาทิ การเปลี่ยน ช่วงเวลาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่จากทุกๆ 8 เดือนมาเป็น 6 เดือน เพื่อให้เกิดความใหม่และอิงแฟชั่นมากขึ้น การเพิ่ม ความหลากหลายของสินค้าทั้งกระเป๋า ผลิตภัณฑ์ในครัว ในบ้าน บนโต๊ะทำงาน ฯลฯ ซึ่งมีราคาไม่แพง ตลอดจนการใช้ เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างนาโนเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่สามารถกันน้ำและกันเปื้อนได้ นอกจากนี้ ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างในปัจจุบัน
“โดยส่วนตัว การตั้งเป้าหมายของนารายา ไม่มองเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป แต่มองการณ์ไกลในแง่ความปลอดภัยของธุรกิจ”
สำหรับ NaRaYa เน้นที่การวางรากฐานให้มั่นคงเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนใน อนาคต คำนึงถึงความสามารถของตนเองและความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ได้ตั้งเป้าว่า จะต้องขยายเพิ่มเป็น จำนวนเท่าใด แต่การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสมากกว่า เพราะเชื่อว่า โอกาสจะกลับมาได้อีก ทั้งนี้จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เคยเป็นหนี้มาก่อน ทำให้การบริหารเงินเน้นไปที่วินัยทางการเงินทั้งกับตนเองและ พนักงานการไม่สร้างหนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากดอกเบี้ยเงินกู้ นับเป็นกรณีตัวอย่างของความสำเร็จภายใต้ป้าย Made in Thailand ที่น่าชื่นชม